สารพัดประโยชน์ของกล้วย
"กล้วย" จัดเป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปี มี "ลำต้น" อยู่ใต้ดินที่เราเรียกกันว่า "หน่อกล้วย" ส่วนที่เหนือต้นเป็นลำต้นเทียม เกิดจากภายในห่อหุ้มซ้อนกัน มีลักษณะคล้ายเป็นลำต้นใบเดียวขนาดใหญ่ออกเรียงเวียนสลับกันรูปขอบขนาน ปลายตัด ขอบเวียน เส้นกลางใบแข็งมีเส้นใยจำนวนมากออกจากเส้นกลางไปทั้ง 2 ข้าง ขนานกันไปจรดขอบใน ก้านใบยาวเป็นส่วน ดอกออกเป็นช่อเรียกว่า "ปลี" ห้อยลง ก้านช่อดอกแข็ง ดอกย่อยแยกเพศอยู่บนต้นเดียวกัน
ดอกเพศเมียจะอยู่ตอนล่างของช่อดอกและบานก่อน แต่ละช่อย่อยจะรองรับด้วยใบประดับขนาดใหญ่สีม่วงแดง (กาบปลี) ดอกย่อยรูปทรงกระบอก มีกลีบดอก 6 กลีบ มี 1 กลีบเดี่ยวขนาดเล็ก ที่เหลืออีก 5 กลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอดปลายแยกเป็น 5 แฉก "ผล" ทรงกระบอกหรือมีเหลี่ยมเล็กน้อย เปลือกหนาสีเขียว เมื่อสุกเปลือกจะมีสีเหลือง มีรสหวานรับประทานได้
ส่วน "ผลดิบ" ใช้เป็นยาสมุนไพร รักษาอาการจุกเสียดและอาการท้องเสีย "กล้วย" เป็นพืชที่มีคุณค่า เป็นพืชประจำครัวเรือน ยังมีคำคำหนึ่งที่เป็นมงคลว่า ปลูกเอาไว้หน้าบ้านหรือหลังบ้านก็ได้ จะทำอะไรก็ให้สำเร็จง่ายๆ แบบ "กล้วยๆ" กล้วยเป็นพืชใช้ประโยชน์ได้สารพัดทุกๆ ส่วนของกล้วย นอกจากเป็นอาหารแล้ว ลำต้น ใบ...และอื่นๆ มีคุณค่า ได้แก่ ส่วนที่ใช้ผลดิบ ผลสุก หัวปลี ผล ใบ และราก คุณค่าทางโภชนาการให้คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน กากไฟเบอร์ กรดอะมิโน วิตามินเอ บี ซี แคลเซียม เหล็ก โพแทสเซียม ทองแดง แทนนิน
สรรพคุณและการใช้ประโยชน์
ผลดิบ : ใช้ป้องกันและรักษาแผลในกระเพาะอาหาร รักษาท้องเสียเรื้อรัง อาหารไม่ย่อย โดยหั่นทั้งเปลือกเป็นแว่นตากแห้งแล้วบดเป็นผง ปั้นเป็นเม็ดหรือชงในน้ำร้อนดื่ม ใช้ครั้งละประมาณเท่ากับกล้วยครึ่งซีกหนึ่งผล หรือนำผลมาใช้โรยรักษาแผลเน่าเปื่อย แผลติดเชื้อ แผลเรื้อรัง
ผลสุก : ช่วยขับถ่ายระบายท้อง มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียและเชื้อรา แก้ท้องผูก บำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง รักษาแผลในกระเพาะอาหาร
กล้วยสุก ผู้เขียนเองมีประสบการณ์ตรง รับประทานวันละ 1-2 ผล อาทิตย์กิน 2-3 วัน ช่วยขับถ่ายได้ดี ท้องไม่อืดไม่เฟ้อ "ต้นแบบ" ที่ผู้เขียนสัมผัสมาคือท่านหลวงพ่อจรัญ ฐิตธฺมโม เจ้าอาวาสวัดอัมพวัน ท่านฉันกล้วยน้ำว้าสุกทุกวัน วันละ 1-2 ผล ขณะนี้อายุ 85 ปีแล้วแข็งแรงดี ผิวพรรณผ่องใส หลวงพ่อบอกท้องไม่อืด ขับถ่ายดีมาก สบายดี ที่สำคัญคือ ผู้เขียนประทับใจที่ท่านมีผิวพรรณ "เปล่งปลั่ง" เสมอ น่าสนใจ
กล้วยสามารถนำมาทำเป็นอาหารคาวหวานได้
Cr. https://www.youtube.com/watch?v=p3fPPFNLaCE
เปลือกผลดิบ : ใช้สมานแผล
หัวปลี : แก้โรคลำไส้ แก้โลหิตจาง ลดน้ำตาลในเลือด แก้ร้อนในกระหายน้ำ บำรุงน้ำนม บำรุงโลหิต คั้นน้ำบำรุงโลหิตแก้ถ่ายเป็นมูกเลือด
ยาง : ใช้สมานแผล ห้ามเลือด
ใบ : ใช้ต้มอาบแก้เม็ดผดผื่นคัน ปิ้งปิดแผลไฟไหม้
ราก : ต้มดื่มแก้ร้อนใน กระหายน้ำ แก้ไอ ท้องเสีย แก้บิด แก้ผื่นคัน
กาบต้น : ลำต้นใช้ทำเชือก ทำแพ เลี้ยงหมู และประเพณีลอยกระทง ใช้ทำกระทงลอยน้ำ
สิ่งมหัศจรรย์ของกล้วย
สิ่งอื่นที่ควรต้องรู้เพิ่มเติมคือ สารสำคัญๆ ฤทธิ์ทางเภสัช อาหารเป็นพิษผลข้างเคียงอื่นๆ เพราะอะไรที่มีประโยชน์ก็ต้องมีโทษที่เราควรต้องรู้ จะได้ "พึงระวัง ป้องกัน ไม่ให้เกิดกับตัวเรา"
สารสำคัญที่มีอยู่ใน "กล้วย" คือ "สารแทนนิน" มีฤทธิ์ฝาดสมาน ใช้แก้อาการท้องเสียได้ สาร Sitoindoside เป็นกลุ่มสเตียรอยด์ (Steriod) เพราะฉะนั้น การใช้ระยะยาวจึงต้องระมัดระวัง เนื่องจากยังไม่มีผู้ศึกษาพิษเรื้อรังของสารกลุ่มนี้
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา : สิ่งที่ไม่น่าเชื่อเลยว่า "กล้วย" คนส่วนใหญ่ที่กินกันเป็นประจำ นอกจากจะซื้อหาง่าย ราคาถูก สะดวกกิน ยังส่งผลในการได้รับวิตามิน ท้องไม่อืด ในเรื่องระบายท้องเป็นหลัก กล้วยยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของท้องเสียที่ทำให้เกิดโรคไทฟอยด์อีกด้วย
cr. http://www.thaihealth.or.th/Content/ (เนื้อหา)
cr. https://www.google.co.th/search?hl=th&site=imghp&tbm=isch&source=hp&biw=1600&bih=799&q= (รูปภาพ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น